โจรงัดบ้าน พยาบาลยกเค้า แฃะ พยายามข่มขืน พยาบาลสาว(มีรูป)

โจรหื่นโผล่อีกแล้ว บุกงัดบ้านพยาบาลสาว กวาดทรัพย์สิน 3 หมื่นไม่หนำใจ พยายามข่มขืนเหยื่อขณะนอนอยู่กับลูก แต่ไม่สำเร็จ ด้าน ผบก.บุรีรัมย์สั่งรื้อคดีชิงทรัพย์ข่มขืนผู้ช่วยพยาบาลสาว หลังผู้ปกครองเด็กหญิงเหยื่ออีกรายร้องขอความเป็นธรรมถูกคนร้ายก่อเหตุเช่นเดียวกัน จึงเข้าแจ้งความ แต่พนักงานสอบสวนกลับไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายทั้งที่เป็นคดีอาญายอมความไม่ได้

มีรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ เกิดเหตุคนร้ายงัดหน้าต่างบ้าน น.ส.สุกัลยา ทศภักดี อายุ 33 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.หนองหงส์ เลขที่ 11 หมู่ 4 บ้านหนองตาดใหม่ ต.ไทยสามัคคี อ.หนองหงส์ ก่อนจะเข้าไปรื้อค้นขโมยเอาทรัพย์สินทั้งเงินสด ทองคำรูปพรรณ และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ซึ่งหลังได้ทรัพย์สินแล้ว คนร้ายยังพยายามจะเข้าไปข่มขืนพยาบาลสาวที่นอนอยู่กับลูกในห้อง แต่เหยื่อได้ต่อสู้ขัดขืน จึงถูกทำร้ายร่างกายจนปากแตก และมีรอยฟกช้ำตามแขน ซึ่งต่อมาเจ้าทุกข์ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.หนองหงส์ มีการตรวจสอบเก็บรอยนิ้วมือแฝงคนร้าย เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พยาบาลสาวเหยื่อโจรเปิดเผยว่า ขณะคนร้ายพยายามจะขืนใจ ตนมีอาการสะลึมสะลือคล้ายกับถูกวางยา จึงร้องตะโกนให้ยายซึ่งนอนอยู่อีกห้องช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายตกใจรีบวิ่งออกจากห้องนอนแล้วกระโดดออกทางหน้าต่าง ก่อนจะหลบหนีไปพร้อมเงินสด ทองคำรูปพรรณ และมือถือ 3 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 30,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าว แม้พยาบาลสาวจะรอดพ้นเงื้อมมือของโจรหื่นได้ แต่ก็สร้างความหวาดกลัวให้กับเหยื่อเป็นอย่างมาก เพราะขณะเกิดเหตุมีแต่ผู้หญิงและเด็กอยู่บ้าน เนื่องจากสามีไปทำงานต่างจังหวัด ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็เพิ่งมีข่าวคนร้ายดักข่มขืนและทำร้ายร่างกายผู้ช่วยพยาบาลสาว ยังมาเกิดเหตุซ้ำซ้อนอีกจนได้

น.ส.สุกัลยากล่าวว่า ยังรู้ตกใจและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดกับตนเอง ทั้งที่ได้ระมัดระวังตัวแล้ว คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของตนเอง เพราะก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน ได้ยินคล้ายมีคนพยายามจะงัดหน้าต่างห้องนอนของตน แต่พอเปิดไฟออกมาดูก็ไม่เห็นใครกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย เกรงคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก จึงได้โทรศัพท์ให้สามีรีบกลับมาบ้าน พร้อมจะทำการซ่อมแซมประตู-หน้าต่างบ้านให้แข็งแรงกว่าเดิมด้วย

ด้านคดีนายปกครอง หรืออ๊อฟ ดินไธสง ตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืน ทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ผู้ช่วยพยาบาลสาว ขณะนี้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุรพล มุ่งมา รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ รื้อคดีนายปกครอง หรืออ๊อฟ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ 14 ปี เหตุเกิดเมื่อต้นปี 2558 โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบเอกสาร พบว่ามีการแจ้งความคดีดังกล่าวจริงเมื่อเดือนมกราคม 2558 แต่ไม่ปรากฏว่ามีการดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา ทราบเพียงว่ามีการไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายกันเท่านั้น ทั้งที่คดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้

คำสั่งดังกล่าวยังให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนคดีใหม่อีกครั้ง หากพบว่านายปกครอง หรืออ๊อฟ มีพฤติการณ์กระทำผิดจริงตามที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อศาลให้พิจารณาเพิ่มโทษอีก พร้อมทั้งจะสอบสวนด้วยว่าเหตุใดพนักงานสอบสวนจึงไม่ดำเนินการในคดีดังกล่าว ซึ่งหากพบว่าบกพร่องหรือมีเจตนาไม่สุจริต ก็จะดำเนินการตามวินัยและกฎหมายอาญาต่อไป

นายปกครอง หรืออ๊อฟ ดินไธสง ได้ตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อไม่กี่วันมานี้ เมื่อก่อเหตุดักถีบรถจักรยานยนต์ผู้ช่วยพยาบาลสาว อายุ 29 ปี ขณะขี่รถจะไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนจะฉุดกระชากลากไปข่มขืนบริเวณป่ายูคาลิปตัสข้างทาง บ้านจิกใหญ่ ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กลางดึกวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งได้ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหลังจากถูกจับกุมตัวได้และส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้นายปกครอง ผู้ต้องหา ถูกส่งตัวเข้าฝากขังผัดแรกที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์

จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 14 ปี พาบุตรสาวเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ว่าบุตรสาวซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.6 ได้ถูกนายปกครอง หรืออ๊อฟ บังคับข่มขืนกระทำชำเรา หลังเกิดเหตุก็ได้พาบุตรสาวเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2558 แต่มีการไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายกันเท่านั้น ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับนายปกครองตามกฎหมาย ซึ่งก็สอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาด้วย.