เจ้าของบ้านช้ำ! เจอตีนแมวงัดบ้านขโมยทรัพย์รวม 3 แสน คืนลอยกระทง

<iframe src="http://www.ch7.com/embed/150500?w=640&h=360&auto=true&" frameborder="0" scrolling="no" width="640" height="360"></iframe>

จันทบุรี - คนร้ายฉวยโอกาสที่แม่ค้าขายของชำออกไปลอยกระทงกับสามี เข้าก่อเหตุงัดลวดตาข่ายหน้าบ้าน และงัดหน้าต่างก่อนจะเข้าไปฉกทรัพย์สินไปเงินสด และทองรูปพรรณไปหลายรายการ มูลค่ากว่า 300,000 บาท ขณะที่ตำรวจรวบผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย หลังให้การมีพิรุธ                เมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (26 พ.ย.) ร.ต.ท.พิชิต สายกระสุน ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจาก นางศรีไพร ชำนาญพืช อายุ 51 ปี แม่ค้าขายของชำ อยู่บ้านเลขที่ 38/5 หมู่ที่ 8 ตำบลคมบาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ว่า มีคนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุงัดลวดตาข่ายหน้า และงัดหน้าต่างข้างบ้านก่อนฉกทรัพย์ภายในบ้านไปหลายรายการ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย                หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.พิชิต สายกระสุน ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้รุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า เป็นบ้านชั้นเดียวที่เปิดเป็นร้านขายของชำ พบ นางศรีไพร ชำนาญพืช แม่ค้าขายของชำ และผู้เสียหายยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่                จากนั้น นางศรีไพร ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูร่องรอยที่คนร้ายได้ใช้ของแข็งงัดลวดตาข่ายหน้าบ้าน และงัดหน้าต่างข้างบ้านให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู จากนั้นคนร้ายได้ปีนหน้าต่างเข้าไปภายในบ้าน และได้รื้อค้นหาทรัพย์สินก่อนจะงัดตู้เสื้อผ้าฉกเงินสด จำนวน 80,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท 3 เส้น พระเลี่ยมทอง 5 องค์ และแหวนทอง 3 วงไป รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมีมูลค่ากว่า 3 แสนบาท                จากการตรวจสอบพบว่า บ้านของ นางศรีไพร ผู้เสียหายที่เปิดเป็นร้านขายของชำไม่ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการได้เข้ามาเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน                พร้อมทั้งประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าวแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีมาเป็นแนวทางในการติดตามหาคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย                ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับชายต้องสงสัยได้ 1 ราย ที่เช่าห้องแถวอยู่ด้านหลังบ้านของ นางศรีไพร หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกมาสอบปากคำแต่ชายต้องสงสัยรายนี้มีพิรุธ และให้การวกวน ทราบชื่อคือ นายชินพล สมพันธ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 8 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี                เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายชินผล ผู้ต้องสงสัยรายนี้ไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี                จากการสอบถาม นางศรีไพร ชำนาญพืช ผู้เสียหายให้การว่า ในช่วงที่เกิดเหตุตนเอง และสามีได้ออกไปลอยกระทงมาประมาณ 3 ชั่วโมง หลังลอยกระทงเสร็จก็กลับมาที่บ้านก็พบว่าลวดตาข่ายหน้าบ้าน และหน้าต่างข้างบ้านถูกงัด จึงได้รีบเข้าไปสำรวจทรัพย์สินภายในบ้านก็พบว่าทรัพย์สินเป็นเงินสด และทองรูปพรรณหลายรายการถูกคนร้ายลักทรัพย์ไปหมดเลย

คนร้ายฉวยโอกาสที่แม่ค้าขายของชำออกไปลอยกระทงกับสามี  เข้าก่อเหตุงัดลวดตาข่ายหน้าบ้าน และงัดหน้าต่าง ก่อนจะเข้าไปฉกทรัพย์สินไปเงินสดและทองรูปพรรณมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท 

ตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของ นางศรีไพร ชำนาญพืช อายุ 51 ปี ที่ตำบลคมบาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุงัดลวดตาข่ายหน้าบ้านก่อนฉกทรัพย์สินภายในบ้านไปหลายรายการ

ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวที่เปิดเป็นร้านขายของชำพบร่องรอยคนร้ายใช้ของแข็งงัดลวดตาข่ายหน้าบ้าน และงัดหน้าต่างปีนเข้าไปภายในบ้านก่อนรื้อค้นหาทรัพย์สินภายในห้องนอนขโมยเงินสดไปจำนวน 80,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 3 เส้น พระเลี่ยมทอง 5 องค์ และแหวนทอง 3 วงไป รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมีมูลค่ากว่า 300,000 บาท

นางศรีไพร ชำนาญพืช ผู้เสียหายให้การว่าในช่วงที่เกิดเหตุตนเองและสามีได้ออกไปลอยกระทงมาประมาณ 3 ชั่วโมง  แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าถูกคนร้ายเข้าไปรื้อค้นบ้านขโมยทรัพย์สินไปแล้ว

เบื้องต้นทางตำรวจสามารถจับชายต้องสงสัยได้ 1 ราย ที่เช่าห้องแถวอยู่ด้านหลังบ้านของ นางศรีไพร เนื่องจากมีพิรุธและให้การวกวนซึ่งตำรวจได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรีต่อไป

ส่วนที่จังหวัดชลบุรี หนุ่มขายสินค้าออนไลน์ วอนคนร้ายที่ขโมยไอแพดไป  นำมาคืนแลกกับเงินค่าไถ่เพราะมีข้อมูลลูกค้าอยู่ในเครื่องเหตุเกิดขึ้นที่รีสอร์ทในตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมืองชลบุรี

นายอรรถพล ขุนประจวบ ผู้ที่เช่าอาศัยอยู่ที่รีสอร์ทดังกล่าวเล่าว่าขณะเกิดเหตุตนออกไปทำธุระนอกบ้านครู่เดียวได้ถูกคนร้ายงัดมุ้งลวดกันยุง หลังจากนั้นได้เปิดประตูหลังบ้านเข้าไปขโมยไอแพดไป 1 เครื่อง ซึ่งภายในเครื่องมีข้อมูลของลูกค้าทั้งหมด โดยที่คนร้ายไม่สนใจทรัพย์สินอื่นๆที่วางอยูในห้องทั้งแหวนเพชรราคา 30,000 เศษ หรือ พระเครื่องชื่อดังหลายองค์ที่เก็บไว้ในห้อง

เบื้องต้นผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี จึงอยากจะวอนคนร้ายให้นำไอแพดมาคืน โดยจะเรียกเงินค่าไถ่ก็ไม่ว่ากันเพราะข้อมูลลูกค้าสำคัญอยู่ในเครื่องทั้งหมดการที่คนร้ายขโมยไป เหมือนตัดช่องทางทำมาหากิน   

ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบผู้กระทำผิดจึงคาดว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุเป็นน่าจะเป็นคนภายใน ที่รู้ความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายและรู้การหลบมุมกล้องของที่พักทำให้กล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพได้