หมู่บ้านเศรษฐีต้องรู้ เป้าแก๊งต่างชาติ ตระเวนยกเค้าสูญนับล้าน

หมู่บ้านเศรษฐีต้องรู้ เป้าแก๊งต่างชาติ ตระเวนยกเค้าสูญนับล้าน
 
 
 
 
ท่ามกลางกำแพงรั้วสูงท่วมศีรษะ วางเรียงรายโดยรอบอาณาบริเวณ แลดูแข็งแกร่งประหนึ่งป้อมปราการชั้นดี สำทับด้วย การมีเจ้าหน้าที่ รปภ. วางกำลังดูแลอารักขาความปลอดภัยอยู่อีกชั้นหนึ่งภายในป้อมปราการ ซ้ำยังมีกล้องวงจรปิด เฝ้าสังเกตการณ์พิรุธ คนเข้าและออก

หากแฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ วาด มโน ตามนายฮกหลง เชื่อเหลือเกินว่า หากเราๆ ท่านๆ ได้มีบ้าน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อมนุษย์ อยู่ภายใต้การดูแล ในแบบที่ว่านี้ เราคงแทบปราศจากความยำเกรงใดๆ และคงแทบจินตนาการได้ยากเต็มที ว่า วันหนึ่ง จู่ๆ ภัยจะมาเยือนได้ถึงชานเรือน ที่อยู่ภายใต้การอารักขาของป้อมปราการชั้นดีนี้ได้ แถมยังพลีทรัพย์สินไปกันที คราวละหลายล้านบาทเลยทีเดียว...
ชื่นชม เจ้าหน้าที่เสี่ยงอันตราย 20 ชั่วโมง ดับไฟไหม้ภูกระดึงสำเร็จ (คลิป)
หาตัวคนร้ายไม่ได้ กล้องวงจรปิดเบลอ ตำรวจเลิกทำคดี “จ่านิว”
"กองทัพบก” เยียวยาเหตุกราดยิง ยินดีรับผู้เสียหายเข้าทหารโดยไม่มีข้อแม้
มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ใช่ครับ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? แต่ในความเป็นจริง มันเกิดขึ้นแล้ว แถมเกิดขึ้นภายใต้อุ้งมือของกลุ่มมิจฉาชีพ แถมไอ้แก๊งแสบนี้ มันยังเหิมเกริมขนาดออกอาละวาด กวาดทรัพย์สินสุจริตชนแบบไม่เลือกหน้าไปมากหน้าหลายตา ในหลายหมู่บ้านเสียด้วย...
แก๊งเหล่านี้ มาจากไหน? ใครเคยตกเป็นเหยื่อบ้าง? คนเหล่านี้ ฝ่าด่านรักษาความปลอดภัยเข้าลักทรัพย์ได้อย่างไร? และหมู่บ้านลักษณะใดคือเป้าหมาย? ในวันนี้ นายฮกหลง แห่ง ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาแฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ทุกท่านไปพบกับคำตอบ นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป...

 
นายชัชวาล เจ้าของบ้านที่ถูกคนร้ายฉกทรัพย์ย่าน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล โชว์ภาพกล่องเปล่าที่ถูกลักทรัพย์ไป
บุกฉกทรัพย์นับล้าน ในเวลาไล่เลี่ยกัน พื้นที่ สภ.บางแก้ว

วันที่ 10 มี.ค. พ.ศ.2559 นายชัชวาล และ นางหยกฟ้า จิรูปถัมภ์ สองสามีภรรยา ถูกกลุ่มคนร้าย บุกเข้าไปภายในบ้านพัก เลขที่ 99/611 หมู่บ้านสีวลี ถ.กิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สูญทรัพย์สินไปนับล้านบาท พื้นที่ สภ.บางแก้ว

คล้อยหลังต่อมาอีกไม่กี่วัน วันที่ 15 มี.ค. พ.ศ.2559 นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล อายุ 48 ปี พิธีกรชื่อดัง ถูกกลุ่มคนร้าย บุกเข้าไปภายใน บ้านพักหรูหรา เลขที่ 101/40 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถ.บางนา-ตราด กม.16 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ฉกทรัพย์สิน ทั้งเครื่องเพชร นาฬิกาหรู พระเครื่อง ฯลฯ สูญไปกว่า 10 ล้านบาท พื้นที่ สภ.บางแก้ว เช่นกัน

2 คดี ในเวลาไล่เลี่ยและพื้นที่ใกล้เคียงกัน เกิดขึ้นในหมู่บ้านหรู เหมือนกัน อะไรคือจุดอ่อน ที่ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ เจาะเข้าไปขโมยทรัพย์สินได้…และล่าสุดคดีมีความคืบหน้าอย่างไร เชิญแฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ ไปติดตามกับนายฮกหลง

เพิ่มวงจรปิด ติดสัญญาณกันขโมยเพิ่ม เชื่อมือตำรวจ ล่าคนร้ายได้

รายแรกขอเริ่มต้นที่ คุณณวัฒน์ พิธีกรชื่อดัง อัพเดตคดีให้นายฮกหลง ฟังว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอยู่ในขณะนี้ว่า คดีมีเบาะแสมากขึ้น และน่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้ เบื้องต้นมีการออกหมายจับบุคคล ที่ถูกกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้แล้ว และคาดว่า น่าจะเป็นแก๊งใหญ่แถมเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายคดี มีเจ้าทุกข์หลายราย

ทรัพย์สินบ้านณวัฒน์ พิธีกรชื่อดัง ถูกคนร้ายลักทรัพย์ไป
ภาพจากกล้องวงจรปิด ผู้ต้องหาลักทรัพย์บ้านณวัฒน์ พิธีกรชื่อดัง
หลังเกิดเหตุ รปภ. ยังหละหลวม ขอหมู่บ้านช่วยดู

สำหรับการดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้าน หลังจากเกิดเหตุ ส่วนตัวยังคงมีความรู้สึกวิตกกังวลอยู่ เพราะเท่าที่สังเกต ยังพบว่า รปภ. ไม่ตรวจบรรดารถเก๋ง ที่เข้า-ออก อยู่เหมือนเดิม จะตรวจเฉพาะรถกระบะ และรถแท็กซี่เท่านั้น แต่ที่อุ่นใจขึ้นหน่อย ก็ตรงที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ ขับรถวนมาดูแลมากขึ้น และกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมประสานงานกับทางคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อขอให้มีการเพิ่มป้อมยาม บริเวณแยกใกล้บ้านด้วย

ส่วนการเฝ้าระวังป้องกันเพิ่มเติม ล่าสุด มีการติดสัญญาณกันขโมย และเพิ่มกล้องวงจรปิดในบ้านแล้ว “ก็ขอฝากบอกผ่านไปยังคุณโจรทั้งหลายนะครับ ไม่ต้องมาแล้วนะครับ” พิธีกรชื่อดัง กล่าวทีเล่นทีจริงกับนายฮกหลง ก่อนเล่าต่อไปว่า “ตอนนี้ ยอมรับเลยว่า ยังรู้สึกลำบากใจโดยเฉพาะเวลาที่ความมืดเริ่มมาเยือน เพราะภาพกลุ่มโจรกลุ่มนี้ ที่มันเข้ามาเดินตรงไหน มันเลื้อยเข้ามาตรงไหน ในบ้านของเรา มันยังติดตา ติดสมองอยู่เลย ทุกวันนี้ ก่อนนอน เลยต้องเดินตรวจกลอนรอบบ้านให้แน่ใจก่อน 1 รอบ ทุกคืน” คุณณวัฒน์ ทิ้งท้ายอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

ด้านการติดตามความคืบหน้าคดี พิธีกรชื่อดัง เล่าให้นายฮกหลง ฟังว่า ได้มีการทำไลน์กลุ่มกับผู้เสียหาย ที่โดนโจรยกเค้าบ้าน ในพื้นที่ สภ.บางแก้ว ได้แล้วประมาณ 4-5 หลัง เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกันช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ติดตามคนร้ายด้วย

แก๊งโจรต่างชาติ เข้าฉกทรัพย์ย่านบางพลี
คนร้ายเตรียมถุงมือมาก่อเหตุเพื่อป้องกันถูกตรวจสอบลายนิ้วมือ
ผมจ่ายค่าส่วนกลาง เพื่อให้ขโมยมาขึ้นบ้านหรือ?

ส่วน นายชัชวาล อายุ 35 ปี ผู้จัดการแผนกไอที อีกหนึ่งผู้เสียหายซึ่งเสียทรัพย์สินไปนับล้านบาท เปิดเผยกับ นายฮกหลง ว่า ตอนนี้ก็คงทำได้เพียงเฝ้ารอคอยความหวังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะหลักฐานเท่าที่มี คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถจับใบหน้าของคนร้าย ในระหว่างที่ลงมือเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านได้อย่างชัดเจน ไปให้แล้ว

อย่างไรก็ดี ส่วนตัว เท่าที่สังเกตจากพฤติกรรมคนร้าย ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีงัดหน้าต่างเข้ามาในบ้านได้ และมีการเตรียมถุงมือมาก่อเหตุเพื่อป้องกันการถูกตรวจสอบลายนิ้วมือ แถมทรัพย์สินที่ขโมยไปจะเน้นไปที่พวกทองคำ แหวนเพชร เป็นหลัก แถมยังรู้จักวิธีการจัดการกล้องวงจรปิดได้ดีในระดับหนึ่ง ทำให้เชื่อได้ว่าแก๊งนี้เป็นพวกมืออาชีพแน่นอน  

รปภ.หละหลวม ปล่อยรถเข้า-ออก  

ทั้งนี้ อีกหนึ่งเหยื่อแก๊งยกเค้า ยอมรับว่า รปภ.ของหมู่บ้าน ยังทำงานค่อนข้างหละหลวม หลายครั้งที่สังเกตเห็นว่า มีการปล่อยรถเข้าหมู่บ้านโดยไม่ตรวจ ในจังหวะที่มีการขับตามกัน โดยที่ไม้กั้นประจำจุดตรวจ ไม่ทันจะลงมาขวาง ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือ หลังจากเห็นเช่นนั้น แทนที่ รปภ.จะติดตามรถคันที่ไม่ได้ตรวจไป ก็ไม่ทำเสียด้วย ซึ่งส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ควรมีการแก้ไข   

เป็นไปได้ อยากขอค่าเยียวยาที่สมน้ำสมเนื้อ

ส่วนเรื่องการขอความช่วยเหลือ จากคณะกรรมการหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้น อยากขอใช้โอกาสตรงนี้ พูดให้ฟังว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่า ผมเดือดร้อน และอยากให้จับตัวคนร้ายให้ได้ไวๆ เพราะอยากได้ทรัพย์สินที่สูญเสียไปคืน อีกอย่างที่อยากพูดคือ ผมเสียค่าส่วนกลางปีละ 25,000 บาท อยู่มาได้ 10 ปีนี่ ก็จ่ายไปรวมกว่า 250,000 บาท ผมจ่ายเพื่อให้โดนขโมยขึ้นบ้านหรือครับ?...หากเป็นไปได้ ก็พูดตรงๆ ว่า อยากได้ค่าเยียวยาที่สมน้ำสมเนื้อเหมือนกัน หลังจากเกิดเหตุ ภรรยาผม ยังคงอยู่ในอาการหวาดผวาอยู่เลย เพราะเค้าเป็นคนแรกที่มาเจอสภาพบ้านเละเทะ จากการถูกรื้อค้นโดยแก๊งมิจฉาชีพ ทำให้ตอนนี้ต้องคอยอยู่เป็นเพื่อนเค้า และต้องลงทุนเงินอีกร่วมแสนบาทติดตั้งเหล็กดัดรอบบ้านเพื่อความปลอดภัย เพราะในเวลานี้คงไว้วางใจอะไรไม่ได้อีกแล้ว

ทรัพย์สินภายในบ้านของนายชัชวาล ที่ถูกคนร้ายขโมยไป

นายชัชวาล ระบุ จ่ายค่าส่วนกลางหมู่บ้านปีละ 25,000 บาท แต่ทรัพย์สินที่ถูกขโมยนั้นเทียบไม่ได้
ไม่พบข้อบังคับ จ่ายชดเชย กรณีบ้านถูกขโมยขึ้น

สำหรับในประเด็นความช่วยเหลือจากทางคณะกรรมการหมู่บ้าน นั้น เมื่อ นายฮกหลง ได้ประสานไปยัง ภญ.ดร.วาสินา ธานี ประธานคณะกรรมการนิติบุคคล หมู่บ้านจัดสรร สีวลี สุวรรณภูมิ ก็ได้รับคำตอบว่า ในเบื้องต้นขอยืนยันว่า ทางคณะกรรมการทุกท่าน ได้ให้ความช่วยเหลือ ลูกบ้านที่เสียหาย อย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนที่เรียกร้องอยากให้มีการจ่ายค่าชดเชยนั้น เท่าที่ทราบ เงินส่วนกลาง เป็นของทุกคนในหมู่บ้าน ซึ่งตามข้อบังคับการจดทะเบียนนิติบุคคล เงินส่วนกลางที่ได้มา ก็เพื่อการบำรุงและดูแลระบบสาธารณูปโภค และเท่าที่ตรวจสอบ ยังไม่พบว่ามีข้อบังคับใด ระบุเอาไว้ว่า หากเกิดเหตุโจรกรรมขึ้นในหมู่บ้าน จะต้องมีการนำเงินส่วนกลางไปชดเชยให้กับผู้เสียหาย

แต่อย่างไรก็ดี ในเมื่อทางหมู่บ้านได้มีการทำสัญญาว่าจ้างกับทางบริษัท รปภ. เอาไว้แล้ว ผู้เสียหาย ก็สามารถไปเรียกร้องค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทาง บริษัท รปภ. ได้ ซึ่งก็ได้แจ้งให้กับทางผู้เสียหายทราบแล้ว

นอกจากนี้ หลังจากเกิดเหตุ เมื่อเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือในครั้งนี้เป็นฝีมือแก๊งต่างชาติ จึงได้ประสานงานไปยัง สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบด้วยอีกแรง รวมทั้งได้มีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมอีก 12 ตัว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้าน 985 หลังคาเรือน

ด้านความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ รปภ. นั้น ล่าสุด ได้มีการแจ้งยกเลิกบริษัท รปภ.เก่า ไปแล้ว และบริษัท รปภ.ใหม่ จะเริ่มเข้ามาทำงานในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2559 นี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.บางแก้ว จะเข้ามาให้ความรู้และติวเข้ม เจ้าหน้าที่ รปภ. ชุดใหม่นี้ ในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2559 อีกด้วย

กลุ่มคนร้ายที่ลงมือในครั้งนี้เป็นฝีมือแก๊งต่างชาติ
ผกก.บางแก้ว ฟันธง แก๊งนี้มืออาชีพ เลือกเป้าหมู่บ้านหรู รปภ.ห่วย

สำหรับพฤติกรรมของแก๊งคนร้าย ที่อาละวาดบุกยกเค้าบ้านคนมั่งมี ใน จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยกับ นายฮกหลง ว่า พฤติกรรมมีความใกล้เคียงกับกลุ่มคนร้ายที่เคยวนเวียนมาก่อเหตุ และถูกจับกุมได้มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยคนร้ายใช้วิธีหาเช่ารถหรูจากนอกพื้นที่ จากนั้นจะเปลี่ยนมาใช้ทะเบียนปลอม ที่มีเลขทะเบียนอยู่จริงแถมตรงกับยี่ห้อและสีของรถ ขับเข้ามาตระเวนก่อเหตุ เมื่อได้ทรัพย์สินจากผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจแล้ว จะทำการคัดแยก เพื่อส่งพัสดุออกนอกประเทศไปก่อน จากนั้นเหล่าคนร้ายจึงค่อยๆ ทยอยๆ เดินทางออกนอกประเทศ โดยสัญชาติของเหล่าคนร้ายพวกนี้ ส่วนใหญ่จะเป็น โคลอมเบีย และเม็กซิโก โดยครั้งนั้น สมาชิกในกลุ่มของคนร้าย จะมีประมาณ 4-5 คน และบางครั้ง มีผู้หญิงร่วมก่อเหตุด้วย

สำหรับหมู่บ้าน ที่คนร้ายหมายตา มักจะเป็นหมู่บ้านที่หรูหรา เพราะถึงแม้จะมี รปภ. คนร้ายเหล่านี้ ก็มักจะไม่เกรงกลัว เนื่องจากปกติ เจ้าหน้าที่ รปภ. เมื่อเห็นว่าคนที่ขับรถเข้ามาเป็นชาวต่างชาติ ก็มักจะให้ความเกรงอกเกรงใจ ไม่กล้าสอบถาม หรือแม้กระทั่งจดทะเบียนรถ เนื่องจากไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาได้ ทำให้โดยมากมักจะปล่อยให้เข้ามาในหมู่บ้านได้เลยโดยไม่ผ่านการตรวจ และแน่นอนในหมู่บ้านหรูเหล่านี้ เมื่อมีการจ่ายค่าส่วนกลางต่อปีด้วยราคาสูง คนในหมู่บ้านก็มักจะเกิดความวางใจ ทำให้ระดับการป้องกันบ้านของตัวเอง อยู่แค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น เมื่อคนร้ายสามารถเข้าไปในหมู่บ้านได้ จึงสามารถเลือกบ้านที่จะก่อเหตุและลงมือได้อย่างย่ามใจ

ซึ่งวิธีการของคนร้าย ก็เพียงสังเกตดูจากด้านนอกว่า บ้านหลังที่หมายตามีคนอยู่หรือไม่ จากนั้นก็จะทำทีเข้าไปกดกริ่ง หากไม่มีใครออกมา ก็ยกพวกบุกเข้าไปยกเค้ากันได้อย่างสบายใจ โดยจะใช้เวลาลงมือในแต่ละหลังเพียงไม่กี่นาที ซึ่งเมื่อประเมินจากพฤติกรรม และลักษณะในการก่อเหตุของแก๊งคนร้ายเหล่านี้ บอกได้เลยว่า กลุ่มคนร้ายเหล่านี้ เป็นแก๊งมิจฉาชีพระดับมือโปร  

สัญชาติของเหล่าคนร้ายพวกนี้ ส่วนใหญ่จะเป็น โคลอมเบีย และเม็กซิโก
สมาชิกในกลุ่มของคนร้าย จะมีประมาณ 4-5 คน และบางครั้ง มีผู้หญิงร่วมก่อเหตุด้วย
ประสานงานทุกหมู่บ้านแล้ว แต่มีบางส่วนไม่สนใจคำเตือน

โดยที่ผ่านมา ทาง สภ.บางแก้ว ได้ประสานงานกับ นิติบุคคลของหมู่บ้านในความดูแลมาโดยตลอด ว่า ให้ระมัดระวังกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติกลุ่มนี้ ทั้งส่งเจ้าหน้าที่มากำชับกับ รปภ. รวมถึงมีการสร้างกลุ่มไลน์เอาไว้สื่อสารกับหมู่บ้าน แต่ที่ผ่านมา ก็พบว่ามีทั้งหมู่บ้านที่สนใจและไม่ได้สนใจในคำเตือนเหล่านี้

ส่วนคดีของ คุณณวัฒน์ เท่าที่สืบทราบ พฤติกรรมพบว่าแอบเข้ามาดักซุ่มดูบริเวณรอบๆ บ้าน ตั้งแต่ก่อนเวลา 09.00 น. ของวันเกิดเหตุ แล้ว เมื่อคนร้ายสังเกตเห็นว่า รปภ.หมู่บ้าน ค่อนข้างหละหลวม จึงตัดสินใจลงมือ โดยลักษณะการเข้าไปในบ้านเพื่อรื้อค้นทรัพย์สิน ก็สังเกตเห็นได้ชัดว่ามีความเป็นมืออาชีพ ไม่ต่างจากแก๊งคนร้ายที่ลงมือ ที่หมู่บ้านสีวลี ก่อนหน้านี้แต่อย่างใด    

ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากเรียกร้อง ให้ทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ร่วมแรงร่วมใจกันดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยลูกบ้านให้มากขึ้น เพราะอยากให้เห็นใจ คนที่เสียเงินค่าส่วนกลางไปทุกเดือนๆ พวกเค้าเหล่านั้นก็ย่อมต้องหวังเรื่องความปลอดภัยในชีวิตเป็นสำคัญ

ผบก.ปากน้ำ เตือน ทรัพย์สินมีค่าไม่ควรเก็บไว้ในบ้าน มั่นใจ ลากคอแก๊งนี้ได้

ด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวกับ นายฮกหลง เพิ่มเติมว่า จากตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถจับภาพใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นแก๊งคนร้ายต่างชาติ ส่วนลักษณะพฤติกรรมของคนร้ายนั้น ค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นพวกมืออาชีพ ที่ตระเวนลักทรัพย์มาอย่างช่ำชอง โดยพวกนี้ จะใช้วิธีขับรถตระเวนหาเป้าหมายไปเรื่อยๆ หากพบว่า หมู่บ้านใดมีความหละหลวม ก็จะเข้าลงมือทันที

กลุ่มคนร้ายมักใช้วิธีขับรถตระเวนหาเป้าหมายไปเรื่อยๆ หากพบว่า หมู่บ้านใดมีความหละหลวม ก็จะเข้าลงมือทันที
ภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้านณวัฒน์ อิสรไกรศีล
โดยลักษณะแผนพฤติกรรมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ ที่บ้านคุณณวัฒน์ มีความใกล้เคียงกับที่เพิ่งเกิด แถวๆ จังหวัดระยอง เมื่อไม่นานมานี้ โดยเป้าหมายหลักของพวกนี้ คือ 1. หมู่บ้านที่ รปภ.หละหลวม ไม่เข้มงวดกวดขัน ไม่ตรวจบัตร 2. ต้องเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ เพราะบ้านจัดสรร 80% นั้น คนมักจะไม่ค่อยอยู่บ้านในตอนกลางวันหรือหัวค่ำ โจรก็จะตระเวนไป ช่องทางไหนง่ายก็บุกเข้าไปเอาทรัพย์สิน ส่วนจะเชื่อมโยงกับแก๊งต่างชาติ ที่เข้าไปลักทรัพย์ในหมู่บ้านสีวลี ที่อยู่ใกล้ๆ กัน หรือไม่ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ ส่วนจะเป็นชาติใด คงยังไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่ให้ความเชื่อมั่นได้เลยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถเชื่อมโยงวัตถุพยาน พยานบุคคล พยานทางเทคนิค สามารถถึงตัวคนร้ายแน่นอน 

ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนทุกท่านว่า 1. ทรัพย์สินของมีค่า กรุณาเก็บไว้กับตัว อย่าเก็บไว้กับบ้าน เช่น เพชร พระเลี่ยมทอง ทองคำ นาฬิกา ควรจะมีตู้เซฟ เพื่อช่วยอารักขาทรัพย์สินตัวเอง 2. ถ้าไม่ใส่ตู้เซฟที่บ้าน ก็ควรไปฝากไว้ที่ตู้เซฟธนาคาร เพื่อความปลอดภัย 3. ควรมีการกวดขันเรื่อง เจ้าหน้าที่ รปภ. รวมถึงปรับปรุงกล้องวงจรปิดอยู่เสมอ

รู้ภัยใกล้ตัวกันแบบนี้แล้ว...บรรดาผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ ลองไปกำชับกำชา กับ รปภ.หมู่บ้านของพวกคุณกันหรือยังว่า หากเจอฝรั่งอั้งหม้อ แทนที่จะตกใจปล่อยผ่าน กลับยิ่งควรต้องเข้มงวด รวมถึงหากเจอรถขับมาป้วนเปี้ยนผิดสังเกต ควรมีการแจ้งเบาะแสไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งช้ำใจกันภายหลัง.

นายฮกหลง ทีมข่าวเฉพาะกิจรายงาน